หมีหมูป่า ติดถ้าหลวง หรือถ้ำขุนน้ำนางนอน จังหวัดเชียงราย
17 วันกับการปฏิบัติการที่ สหประชาชาติให้ความร่วมมือ
แบะเป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์ที่ตอกย้ำว่า "น้ำใจ" คือสิ่ง สวยงาม
นับตั้งแต่วันแรกที่ทราบข่าวว่า ทีมหมูป่าติดถ้ำหลวง ภารกิจช่วยชีวิตก็ได้เริ่มขึ้น จากการร่วมมือของหลายฝ่าย ทั้งในประเทศไทยและ "ทั่วโลก"
เริ่มจากกู้ชีพที่ได้ส่งข่าวว่าพบเห็นจักรยานรวมถึงสัมภาระหน้าถ้ำหลวง สันนิษฐานว่าเจ้าของอาจจะยังอยู่ข้างใน โดยสืบสาวราวเรื่องจนทราบได้ว่า คือทีมฟุตบอลเยาวชน หมู่ป่า อาคาเดมี
ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ก็เมตตาให้ความร่วมมือ ลงพื้นที่เข้าสนับสนุนการช่วยเหลือในครั้งนี้อย่างเต็มกำลัง
ผู้เชี่ยวชาญ การช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากการติดถ้ำจากอังกฤษ ได้เคยสำรวจถ้าเขาหลวง หรือถ้ำนางนอน ก็ได้เผื่อแพร่ข้อมูลอันสำคัญเพื่อทำให้การช่วยเหลือในครั้งนี้ง่ายขึ้น
ระหว่างนั้นสถานการณ์เริ่มอัตรายขึ้น! เนื่องจากฝนที่ตกตลอดทำให้ระดับน้ำสูงขึ้น ภารกิจการช่วยเหลือจึงทุลักทุเลขึ้น แต่นั้นก็ไม่ได้ทำให้จิตอาสาทุกท่านลดละความพยายาม
THAI NAVY SEAL ได้ส่งกำลังสนับสนุนการดำน้ำสำรวจหาช่องทางเข้าไปช่วยเหลือหมูป่าที่คาดว่าจะอยู่บริเวณ ห้องโถงที่ชื่อว่า "พัทยาบีช"
เมื่อภารกิจกำลังดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยนั้นคือ อาหารอร่อยๆ ซึ่งก็มีชาวบ้านช่วยกันทำอาหารมาแจกจ่ายกันอย่างฟรีๆ
ระดับน้ำในถ้ำสูงขึ้น จำเป็นจะต้องดูดน้ำออกจาก การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค และฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยก็ได้ให้การสนับสนุนสายไฟและเข้าช่วยเหลือเรื่องการสูบน้ำออกจากถ้ำ
โดยน้ำที่สูบออกมานั้นจำเป็นจะต้องระบายออกซึ่งก็ได้เจ้าของไร่นาระแวกใกล้เคียง อนุญาต ให้ปล่อยน้ำเข้าท่วมขังได้ เพราะเห็นแก่ชีวิตของเด็กๆเป็นสำคัญ น่าซาบซึ้งใจมาก
การสำรวจแบ่งออกไปในถ้ำบางส่วนต้องดำน้ำ นอกถ้ำ(ปีนภูเขา) บนท้องฟ้า(โดรนบินสำรวจ) ซึ่งผู้ปฏิบัติงานเต็มที่กับการค้นหาเด็กๆ ทีมหมูป่า อาคาเดมี ทั้ง 13ชีวิต ที่ติดถ้ำหลวง หรือขุนน้ำนางนอนในครั้งนี้มาก
จนวันนึงที่ข่าวที่น่ายินดีนั้นคือ พบเด็กทั้ง13คนแล้ว ทุกคนปลอดภัย และสุขภาพร่างกายแข็งแรงอย่างน่าเหลือเชื่อ
ซึ่งนักสำรวจชาวอังกฤษที่ชุดแรกที่พบเด็กๆ และสิ่งที่ทำให้ทั่วโลกยอมรับอีกเรื่องคือ เด็กๆสื่อสารกับนักสำรวจชาวอังกฤษได้อย่างราบรื่น
เมื่อทราบข่าวว่าเด็กๆทั้ง 13 คน ทีมหมูป่า ปลอดภัยทางพ่แม่ ผู้ปกครองก็เกิดความสบายใจ ทำให้การรอคอยมีความหวัง และเปลี่ยนภารกิจการค้นหามาเป็นการช่วยชีวิต
ภารกิจการเคลื่อนย้ายหมูป่าทั้ง 13ชีวิต ต้องแข่งขันกับเวลาเนื่องจาก ระดับน้ำในถ้ำที่มีแต่จะสูงขึ้น และสภาพร่างกายของเด็กๆที่ต้องการได้รับการฟื้นฟู ทุกส่วนจึงระดมความคิดเพื่อที่จะนำเด็กๆออกมาจากถ้ำขุนน้ำนางนอนอย่างเร็วที่สุด
ในขณะมีหลายไอเดียที่มาจากความร่วมมือกัน รวมถึง ELON MUSK เจ้าของ TESLA ที่ช่วยคิดค้นอุปกรณ์เคลื่อนย้ายเด็กๆออกจากถ้ำ Rescue pods หรือ แคปซูลช่วยชีวิต
ความพยายาม และสามัคคี รวมตัวกัน ความสำเร็จจึงปรากฏ การเคลื่อนย้ายหมูป่าทั้ง 13 ชีวิต ได้เริ่มขึ้น และดำเนินไปอย่างราบรื่น จนกระทั่งชุดสุดท้ายออกมานั่นคือโค้ชของ หมูป่า อาคาเดมี ทุกคนปลอดภัย โดยความร่วมมือของทุกคน
แต่ทุกภารกิจ ย่อมมีผู้เสียสละ นั่นคือ จ่าแซม ผู้ที่เสียชีวิตจากการหมดสติระหว่างการลำเลียงถังออกซิเจนเข้าไปไว้ตจามจุดต่างๆของถ้ำ ร้านยางนนท์ ขอร่วมแสดงความเสียใจมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ
อย่างไรก็ตามภารกิจช่วยชีวิต หมูป่า อาคาเดมี จากถ้ำขุนน้ำนางนอนในครั้งนี้ ก็แสดงให้เห็นถึงความมีน้ำใจ และความสามัคคีของเพื่อนมนุษย์ที่ร่วมมือกันสร้างปาฏิหารย์